เมื่อธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเคยเป็นที่มาของรายได้หลักในประเทศ ตกอยู่ในสภาพ Set Zero หรือต่ำสุดเป็นศูนย์ การจะฟื้นคืนชีพให้กลับมาเหมือนเดิมเป็นเรื่องที่ท้าทาย
แม้ธุรกิจท่องเที่ยวจะเป็นธุรกิจที่ทำเงินมหาศาล แต่ในทางกลับกันก็เป็นธุรกิจที่มีความอ่อนไหว เปราะบาง และมักเป็นธุรกิจแรกๆที่ได้รับผลกระทบในเวลาที่เกิดวิกฤติ โดยเฉพาะวิกฤติเศรษฐกิจ ที่เริ่มส่อแววมาหลายปีก่อนหน้านี้
สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เกิดขึ้นทั่วโลกอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ทำให้ทุกฝ่ายต้องปรับตัว โดยเฉพาะการสร้างวิถีปฏิบัติใหม่ หรือ New Normal ซึ่งไม่ใช่เพิ่งเคยเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว คริสทีน ลาการ์ด จาก IMF เรียกสภาวะแบบนี้ว่า New Mediocre ขณะที่ แลร์รี ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เรียกสภาวะแบบนี้ว่า Secular Stagnation ส่วน บิลล์ กรอสส์ แห่ง PIMCO (Pacific Investment Management Company, LLC) เรียกว่า New Normal
การท่องเที่ยวแบบใหม่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้สักพักหนึ่งแล้ว จากอดีตที่นักท่องเที่ยวจะอวดกันถึงการท่องเที่ยวแบบ Luxury ว่าใครได้เที่ยวในแบบที่หรูหรากว่ากัน กลายเป็นการแข่งกันว่า ใครเที่ยวได้ประหยัดเงินในกระเป๋ามากกว่ากัน เช่น จองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ได้ในราคาที่ถูกกว่า
ขณะที่ผู้ประกอบการและผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวก็หันมาแข่งกันที่การอัดโปรโมชันหรือแคมเปญการตลาดที่เหนือชั้นกว่า เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว ที่ต้องการความหรูหราแบบเดิม แต่จ่ายเงินในกระเป๋าน้อยกว่า
ดีลการจองและจ่ายผ่านแพลตฟอร์มและเว็บไซต์ต่างๆ รวมถึงแพ็กเกจการท่องเที่ยวแบบประหยัด คุ้มค่า เกิดการแข่งขันกันแบบที่เรียกว่าหนักมาก แต่ทั้งหมดก็เพื่อความคุ้มค่าในการจ่ายของนักท่องเที่ยว
สำหรับประเทศไทยที่ผ่านมา การจัดโปรแกรมหรือคิดแคมเปญเก๋ๆเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว แบบ Amazing Thailand ต้องยอมรับว่า เรานำหน้าหลายๆประเทศโดยเฉพาะในเอเชียที่เป็นคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ หรือเวียดนาม
ก่อนหน้านี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วางแนวทางส่งเสริมการตลาด ททท. ปี 2563 โดยเน้นการเจาะกลุ่มคุณภาพราย Segment ต่อยอดจากปีที่ผ่านมา ไว้ 5 แนวทาง ไม่ว่าจะเป็น Go High เจาะกลุ่มตลาดบนที่มีความสนใจในคุณค่ามากกว่าราคา Go New Customer ขยายตลาดกลุ่ม First Visit ลูกค้ากลุ่มใหม่ในพื้นที่เดิมและลูกค้าในพื้นที่ใหม่ Go Local การท่องเที่ยววิถีถิ่นเพื่อกระจายการเดินทางสู่ชุมชนทั้งเมืองหลักและเมืองรอง Go Low Season ทำการตลาดที่สอดคล้องกับพื้นฐานของประเทศชูความประเทศไทยในฐานะประเทศแห่งการเกษตรกรรม สายน้ำสายฝนที่มีความสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งจะเชื่อมโยงกับสินค้าหลัก คือ Gastronomy ได้อย่างลงตัว Go Digital ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือหลักในการเข้าถึงลูกค้าทั้งเชิงลึกและเชิงกว้าง ส่วนตลาดในประเทศ เน้นตอบโจทย์ทุกเจนฯ เน้นไลฟ์สไตล์และเจาะกลุ่มคนไทยเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงให้หันมาสนใจหาประสบการณ์ท่องเที่ยวเมืองไทยกันมากขึ้น
แต่เมื่อมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ททท.จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์และแผนการตลาด โดยเฉพาะเมื่อทั่วโลกเริ่มผ่อนปรนให้สามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมต่างๆได้อีกครั้ง SHA หนึ่งในกลยุทธ์ที่ออกมาเพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการในวิถีใหม่ หรือ New Normal
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย (ททท.) บอกว่า SHA เปรียบเสมือนตราสัญลักษณ์รับรองคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการของสถานประกอบการ ภายใต้โครงการที่มีชื่อเต็มว่า Amazing Thailand Safety & Health Administration โดยเปิดโอกาสให้สถานประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ที่ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ สามารถสมัครเข้าร่วมเพื่อรับตราสัญลักษณ์ SHA แต่จะต้องมีการปรับปรุงการให้บริการตามมาตรฐาน ซึ่งมาตรการทั้งหมด อยู่ภายใต้การกำกับโดยกระทรวงสาธารณสุข เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของโรค COVID-19
“เราคิดว่าด้วยมาตรการนี้ จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่จะมาใช้บริการ เป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจในการใช้บริการ เกิดการจับจ่ายสินค้าท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้แก่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งในเร็ววันนี้”
ยุทธศักดิ์ บอกด้วยว่า ผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA จะได้รับการโปรโมตจาก ททท.ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ถึงการให้บริการที่มีมาตรฐานด้านสุขอนามัย นอกจากนี้ ยังมีการเปิดระบบให้นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการสถานประกอบการที่ผ่านมาตรฐานนี้ เขียนรีวิวในแบบดิจิทัล เพื่อวัดความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว เป็นการตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของสถานประกอบการหลังได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ไปแล้ว
เป็นอีกหนึ่งในมาตรการ New Normal ด้านการท่องเที่ยว ที่หวังว่าจะช่วยฟื้นคืนชีพธุรกิจท่องเที่ยวที่ทรุดลงอย่างหนัก
เอาเป็นว่า การเดินทางท่องเที่ยวหรือใช้บริการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวครั้งต่อไป อย่าลืมสังเกต ตราสัญลักษณ์ SHA เพื่อความมั่นใจด้วย.
June 13, 2020 at 05:05AM
https://ift.tt/3cWjnng
"SHA" แบรนด์ตอกย้ำความมั่นใจ ฟื้นคืนชีพ...ธุรกิจท่องเที่ยว - ไทยรัฐ
https://ift.tt/3dXvwcw
Bagikan Berita Ini
0 Response to ""SHA" แบรนด์ตอกย้ำความมั่นใจ ฟื้นคืนชีพ...ธุรกิจท่องเที่ยว - ไทยรัฐ"
Post a Comment