
การบินพาณิชย์เจอผลกระทบจากโควิด-19 ไปเต็มๆ แต่ผู้ให้บริการเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวในบางประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย หรือสหรัฐ สามารถฟื้นตัวจากวิกฤติได้ไว เหตุมีลูกค้ากลุ่มใหม่ที่อยากเลี่ยงผู้คน ประกอบกับบริษัทเสนอส่วนลดให้ ทำบางเที่ยวบิน ราคาไม่ไกลจากที่นั่งชั้นหนึ่ง
หนึ่งในบริษัทที่รอดพ้นจากผลกระทบทางเศรษฐกิจช่วงไวรัสระบาด คือบริษัทอินโดเจ็ท ซารานา อาเวียซี แห่งอินโดนีเซีย ที่เปิดเผยว่ามีรายได้ต่อเนื่อง เพราะธุรกิจดำเนินไปอย่างปกติ และมีแนวโน้มว่าได้รับงานเพิ่มขึ้นอีกด้วย เนื่องจากมีลูกค้าที่ต้องการบินไปต่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีของชาวต่างชาติในอินโดนีเซีย ที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ
บริษัทอินโดเจ็ทได้รับการว่าจ้างให้บินไปส่งชาวต่างชาติหลายสิบครั้ง แต่ต้องดูสถานการณ์ที่สนามบินปลายทางด้วย เพราะบางประเทศยังไม่ให้เที่ยวบินต่างๆ ลงจอด รวมถึงเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว
ในช่วงที่มีการระบาด ทางบริษัทกำหนดให้ลูกค้าผ่านการตรวจ PCR (Polymerase chain reaction) เสียก่อน จึงสามารถจองบริการได้ ทำให้กระบวนการจองใช้เวลาเร็วสุด 3 วัน จากเดิมแค่วันเดียวหรือ 6 ชั่วโมงก็สามารถทำได้
มีการจองเข้าไปที่บริษัททุกวันๆ ละ 4 รอบ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางบินในประเทศหรือต่างประเทศ โดยเส้นทางบินในประเทศอาจเป็นระหว่างกรุงจาการ์ตากับเกาะบาหลี ซึ่งทั้งสองจุดเป็นเหมือนฐานหลักของบริษัท แต่ก็ยังมีเกาะอื่น อย่างสุลาเวสีด้วย
สำหรับสถานการณ์ในสหรัฐนั้น เครื่องบินพาณิชย์กลับมาให้บริการได้เพียง 15-17% แต่อุตสาหกรรมเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและให้บริการได้ 70% เพราะได้ลูกค้าใหม่ๆ ที่ไม่เคยบินส่วนตัวมาก่อน แต่อยากหลีกเลี่ยงผู้คนจำนวนเยอะๆ
บริษัทเช่าเหมาลำบางแห่งมีลูกค้ามากกว่าปีที่แล้วเสียอีก ผลจากลูกค้าใหม่ๆ ที่หันไปบินแบบส่วนตัว เพราะวิตกเกี่ยวกับการระบาด ประกอบกับผู้ให้บริการลดราคาให้ บางเที่ยวบินมีราคาถูกลง 30-50% อันทำให้เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ราคาไม่ไกลจากที่นั่งชั้นหนึ่งหรือชั้นธุรกิจ อีกทั้งรัฐบาลสหรัฐยังระงับการเก็บภาษี 7.5% สำหรับเจ็ทส่วนตัวด้วย อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นภาครัฐ
การเหมาลำเครื่องบินเจ็ทขนาด super midsize แบบเที่ยวเดียวจากนิวยอร์กไปไมอามี มีราคา 20,000 ดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว (ประมาณ 600,000 บาท) แต่ปัจจุบันอยู่ที่ราว 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 300,000 บาท) โดยเครื่องขนาด super midsize มี 8-10 ที่นั่ง ดังนั้นจึงตกที่นั่งละประมาณ 1,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 30,000 กว่าบาท) ไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่นๆ
ผู้บริหารบริษัทเนตเจ็ทส์ เปิดเผยว่ามีลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเดือนพ.ค. ทำให้เดือนที่แล้วเป็นเดือนที่มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 13 ปี
ส่วนบริษัทไพรเวตเจ็ทส์ มีผู้สอบถามเข้าไปมากขึ้นถึง 85% ในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนมิ.ย.เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ด้านผู้บริหารของบริษัทวิสตาเจ็ท เปิดเผยว่ากลับมาให้บริการได้ประมาณ 85% ของช่วงก่อนเกิดไวรัสระบาดในสหรัฐ โดยลูกค้าใหม่ 71% ไม่เคยบินส่วนตัวมาก่อน
บรรดาผู้ให้บริการเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ระบุว่าในช่วงที่การเดินทางเพื่อธุรกิจยังไม่ค่อยมี ปรากฎว่าการเดินทางส่วนตัวของผู้มีฐานะ ซึ่งจำนวนมากเป็นผู้สูงวัย ได้เข้ามาชดเชยในส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปหาคนรัก คนในครอบครัว การเดินทางเพื่อย้ายบ้าน หรือไปเปิดหูเปิดตาที่อื่นหลังจากกักตัวอยู่ในบ้านมาหลายเดือน
ก่อนหน้านี้ ครอบครัวผู้มีฐานะจำนวนมาก ไม่ได้ใช้บริการเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว เพราะมองว่าแพงเกินไป แต่ขณะนี้คนเหล่านี้พร้อมจ่ายเพิ่ม ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ
สภาพการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ธุรกิจเช่าเหมาลำของบริษัทเบลด ทะยานขึ้น 600% จากปีที่แล้ว และกว่า 70% เป็นลูกค้าที่ไม่เคยเช่าเหมาลำมาก่อน เส้นทางยอดนิยมคือจากนิวยอร์กไปฟลอริดา และจากนิวยอร์กไปลอสแองเจลีส
ประเด็นด้านสุขภาพเป็นสิ่งที่ลูกค้าคำนึงถึงเป็นอันดับแรก เบลดจึงจัดทำมาตรการดูแลอย่างเข้มข้น รวมถึงการเปิดโอกาสให้ผู้โดยสารขับรถไปได้ถึงเครื่องบินในกรณีที่สนามบินนั้นอนุญาต ทั้งยังมีการวัดอุณหภูมิผู้โดยสาร วัดชีพจร ฆ่าเชื้อบนเครื่องบิน ผู้โดยสารหลายคนนำอาหาร-เครื่องดื่มไปเอง เพื่อจะได้ไม่ต้องติตต่อพูดคุยกับพนักงานบนเครื่อง
June 23, 2020 at 01:14AM
https://ift.tt/2NnZQSm
ฟื้นตัวเร็ว...ธุรกิจเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวไปต่อฉลุย - Businesstoday
https://ift.tt/3dXvwcw
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ฟื้นตัวเร็ว...ธุรกิจเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวไปต่อฉลุย - Businesstoday"
Post a Comment